NIACINAMIDE

ไนอาซินาไมด์ (วิตามินบี3, นิโคตินาไมด์)
สรรพคุณ : ส่วนผสมที่ช่วยปรับสภาพผิว , ทำให้ผิวกระจ่างใส , ป้องกันสิว , ให้ความชุ่มชื้น/สารดูดความชื้น

• ลดเลือนจุดด่างดำ จากการศึกษาพบว่ามักจะใช้ไนอาซินาไมด์ 2-5% ทุกวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้ร่วมกับอะมิโนซูการ์และอะซิทิลกลูโคซามีน ผลลัพธ์จะยิ่งดีขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น ไนอาซินาไมด์ในฐานะสารปรับสีผิวให้ขาวขึ้นยังทำงานแตกต่างจากสารอื่นๆ ทั่วไป โดยยับยั้งการถ่ายโอนเมลาโนโซม (เซลล์ทรงกลมเล็กๆ ที่บรรจุเม็ดสีเมลานิน) จากเมลาโนไซต์ (เซลล์ผิวหนังที่สร้างเมลานิน) ไปยังเคอราติโนไซต์ (เซลล์ผิวหนังในชั้นบนสุดของผิวหนัง) ในขณะที่สารปรับสีผิวอื่นๆ ส่วนใหญ่จะไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างเมลานิน) ดังนั้น หากคุณต้องการจัดการกับจุดด่างดำจากหลายปัจจัย คุณสามารถผสมผสานการรักษาด้วยไนอาซินาไมด์กับสารยับยั้งไทโรซิเนส เช่นวิตามินซี อาร์บูตินหรือกรดโคจิก
• เพิ่มการสังเคราะห์เซราไมด์ ส่งผลให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวดีขึ้น จากการศึกษาพบว่าไนอาซินาไมด์ 2% สามารถเพิ่มการสังเคราะห์กรดไขมันอิสระ คอเลสเตอรอล และเซราไมด์ ส่งผลให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น ลดการสูญเสียน้ำผ่านชั้นหนังกำพร้า และผิวชุ่มชื้นขึ้น
• สามารถช่วยปรับปรุงสภาพผิวต่างๆ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ และรวมถึงสิว แม้ว่าไนอาซินาไมด์จะไม่ถูกนับเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำหรับรักษาสิว แต่หากคุณมีปัญหาผิวก็คุ้มค่าที่จะลอง ไนอาซินาไมด์มีคุณสมบัติควบคุมความมันและต้านการอักเสบและจากการศึกษาที่ใช้ไนอาซินาไมด์ 4% เป็นเวลา 8 สัปดาห์ในการรักษาสิวพบว่า 82%ของผู้ที่ได้รับการรักษามีอาการดีขึ้นยิ่งไปกว่านั้น ผลลัพธ์ยังดีกว่าการใช้เจลคลินดาไมซิน 1% ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่มักใช้ในการรักษาสิวเล็กน้อย
• ต่อต้านริ้วรอย จากการศึกษาพบว่ามักใช้ไนอาซินาไมด์ 4-5% ทุกวันเป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้เช่นเดียวกับการผลิตโปรตีนสำคัญ เช่น เคราติน ฟิลากกริน และอินโวลูคริน
• การศึกษาแสดงให้เห็นว่าวิตามินบี3 สามารถช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังชั้นนอก (ซึ่งจะช้าลงตามอายุ) ช่วยสมานแผลปรับโครงสร้างผิว ให้เรียบ เนียน และยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและปกป้องผิวจากแสงแดดนอกจากนี้ วิตามินบี 3 ยังอาจมีประโยชน์ต่อโรคโรซาเซียและโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ซึ่งน่าจะมาจากคุณสมบัติต้านการอักเสบของมัน